การเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ช่วยพัฒนา 'สมาธิ - การเรียนรู้ - ป้องกันโรคสมองเสื่อม' ให้กับเด็กๆ ได้อย่างไร

การพูดได้หลายภาษาจะไม่ได้มีประโยชน์ในด้านการทำงานหรือโอกาสในชีวิตสำหรับอนาคตของเด็กๆ อีกต่อไป เมื่อประสาทวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการพูดได้สองภาษามีประโยชน์ต่อประสิทธิภาพของสมองเป็นอย่างมาก

สมองของคนที่พูดได้หลายภาษาต้องทำการระงับภาษาหนึ่งในขณะที่กำลังพูดอีกภาษาหนึ่ง การทำงานที่แข็งขันของเซลล์สมองทำให้เซลล์สมองมีการเจริญเติบโต ในทางกลับกันเซลล์สมองที่ไม่ได้ทำงานมักจะฝ่อไป ซึ่งบริเวณต่างๆ ของสมองจะรับผิดชอบภาษาที่แตกต่างกันออกไป จากการวิจัยของนักวิจัยชาวอังกฤษที่ทดสอบกับอาสาสมัครที่พูดภาษาเดียวและสองภาษา พบว่าคนที่พูดภาษาเดียวทำแบบทดสอบทางสมาธิได้แย่กว่าคนพูดสองภาษา ความสามารถในการสลับภาษาไปมาช่วยให้สมองทำงานด้านสมาธิได้ดีขึ้น เนื่องจากสมองต้องทำงานมากกว่าปกติทำให้การควบคุมสมาธิโดยรวมดีขึ้น และยิ่งเป็นผลดีที่ได้เรียนรู้ภาษาอื่นๆ ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ งานวิจัยอีกชิ้นที่เปรียบเทียบระหว่างเด็กพูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว กับเด็กที่พูดภาษาอังกฤษและเข้าเรียนในหลักสูตรภาษาสเปน พบว่ากลุ่มที่เรียนในหลักสูตรภาษาสเปนด้วยจะทำการทดสอบความจำใช้งานและเรียนรู้ศัพท์ได้ดีกว่าเด็กที่พูดภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว งานวิจัยอีกชิ้นที่เมืองพอร์ตแลนด์ชี้ว่าเด็กๆ ที่พูดสองภาษามีทักษะอ่านภาษาอังกฤษล้ำหน้าเด็กพูดภาษาเดียวไปหนึ่งปีเลยทีเดียว

นักวิจัยในโทรอนโทตีพิมพ์งานศึกษาที่บ่งชี้ว่าผู้ที่พูดได้สองภาษาจะมีอาการโรคสมองเสื่อมช้ากว่าผู้พูดภาษาเดียวประมาณ 4 ปี ทั้งยังมีงานวิจัยจากอีกหลายๆ ที่ซึ่งรองรับว่าการเรียนรู้หลายภาษาช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือ Neurofitness : สมองฟิต-ฟิตสมอง เคล็ดลับเพิ่มศักยภาพและปลุกความคิดสร้างสรรค์ฉบับศัลยแพทย์สมอง โดย Rahul Jandial